ไม่เพียงแค่นั้นกับการกดจูบเร่าร้อนหยาบคายเขายังหมุนร่างอีซอยอลที่พยายามขัดขืนอย่างสุดกำลังแม้เจ้าตัวจะสั่นเทิ้มไปทั้งร่างกายและหัวใจก็ตาม
เขาทิ้งตัวอีซองยอลลงกับโซฟาสีเขียวอ่อนตัวใหญ่กลางห้องรับแขกตรงนั้น
ทาบทับทั้งเนื้อตัวมือหนาระรานจับลูบไปทั่วทั้งที่ยังคงกดจูบรุกล้ำไม่ถอดถอนออก
“
อึกอื้อ !! ”
มือเล็กพยายามผลักดันคิมมยองซูออก
แต่ก็ยิ่งถูกเขาโถมทับร่างกายที่หนาแน่นแข็งแรงกว่าเข้ามา
จูบที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าร้อนแรงแต่.. อีซองยอลไม่ต้องการ ไม่ต้องการแบบนี้
“ปล่อย! ปล่อยนะมยองซู!”
เรียวปากอิ่มหลุดจากการถูกกดจูบครอบครองริมฝีปากได้ก็เผยอปากร้องห้ามคนหยาบคายที่ใช้กำลังกับตน
เมื่อริมฝีปากหนาที่เคยรุกรานหันไประรานเรือนคอขาวหอมของอีซอยอลแทน
หลังจากกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอีซองยอลก็ยิ่งดีดดิ้นเพื่อให้หลุดพ้น
มือบางทุบไหล่หนาอ้าปากร้องให้อีกคนหยุดการกระทำหยาบๆนี้ไปซะทีอย่างไม่ยอมแพ้
“
อ๊ะ!! ”
หากแต่แล้วอีซองยอลก็ต้องสะดุ้งกึก
เสียงหลุดหายไปจากลำคอกลับการมาเป็นเสียงบางหวิวประหลาดเล็ดลอดออกมา เมื่อคิมมยองซูไต่ไล่ลิ้นเล่นกับยอดตัยสีเข้มบนเรือนร่างเขาเหมือนกับว่าสิ่งที่อีซองยอลพยายามอยู่มันไม่เคยมีขึ้น
.. แล้วตอนไหน ตอนไหนที่เสื้อผ้าของอีซียอลถูกถอดออกแทบจะเปลือยเปล่า
“ไม่
อย่า อย่านะ !! ”
ข้อมือสวยถูกรวบ
คนที่ดิ้นรนให้ตัวเองหลุดพยายามดึงแขนตัวเอง แต่ก็ถูกกดลงกับฟูกหนาอีกครั้ง ตาสีนิลเรียวมองยักยิ้มไร้เสียงพูดใดๆอีซองยอลกลืนน้ำลายลงคอฝืด
ขยับเรียวปากจะห้ามแล้วมันก็เป็นอีกครั้ง ที่เสียงร้องห้ามไม่ถูกส่งออกมาจากลำคอ
“อื้อ! อื้มม!!”
ทำไมเขาถึงห้ามไม่ได้
ทำไมเรี่ยวแรงอีซองยอลถึงหายไปหมด เพียงแค่ถูกสัมผัส
เพียงแค่ถูก...คนคนนี้ แตะต้องเรือนร่าง... ทำไม ร่างกายของเขามันถึงได้