แววตาสีนิลจดจ้องมองทั่วใบหน้าสวยหวานที่เริ่มจะปรับเปลี่ยนสีหน้าตัวเองทั้งที่ยังคงหลับตาสนิท เรียวปากหนาเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ เมื่อบีบเคล้นนิ้วเรียวกับยอดสีชมพูตูมตัยมากขึ้น ร่างข้างใต้ก็เริ่มจะส่งเสียงคลอออกมา
“อ..อือ..”
หึ.. คราวนี้ฉันจะไม่แค่จูบนายแล้วเดินออกจากห้องแบบนั้นอีกแล้ว อีซองยอล .. ไม่ว่านายจะหลับ หรือจะตื่น เมื่อฉันอยากได้ นายก็ต้องเป็นของฉัน ..หึหึ
ร่างหนาเริ่มปลดเสื้อเชิ้ตบางที่ปกปิดอยู่ช้าๆ ก้มใบหน้าลงไปขบเม้มต้นคอไหล่ขาววนเวียนเนิบนาบ ไล่ระดับกับปลายลิ้นเปียกของตัวเองกับทุกพื้นผิวที่เขารู้ว่าตรงไหนอีซองยอลจะส่งเสียงหวานหูออกมาให้เขาได้ยิน แม้ว่าจะหลับใหล เล่นมาได้ซักพัก เสียงของลีซองยอลที่ครางอ้อยอิ่งออกมาในลำคอก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แถมยังเริ่มจะยกมือขึ้นผลักดันราวกับกำลังปัดป้องตัวเอง แต่ดวงตาก็ยังคงหลับสนิท..
คิมมยองซูเห็นอย่างนั้นจึงปลดกระดุมที่เหลืออยู่กับเสื้อเชิ้ตนั้นออกจนหมด เขาลากลิ้นเปียกๆวนลงมาแทนนิ้วมือที่ไล่ระดับลงต่ำเรื่อยๆ
“อ่ะ ..อื่ม..” หึหึ น้ำเสียงอ้อยอิ่ง แรงขัดขืนที่เหมือนจะเต็มใจนี้ มันช่างยิ่งยั่วยวนให้เขาทำมากกว่านี้ เขาชักจะอยากได้ยินมากกว่านี้
คิมมยองซูลากลิ้นไหลวนจากหัวไหล่ ไล่วนขึ้นไปที่ใบหู ลีซองยอลขยับหัวหนีราวคนที่ตื่น นั่นทำให้ร่างหนาเริ่มชะงักรู้สึกบางอย่างขึ้นมา คิมมยองซูผงกหัวขึ้นจ้องมองร่างกายที่อยู่ข้างใต้นิ่ง
เขาคิดว่าอีซองยอลคงจะตื่นแล้ว หากแต่ร่างบางก็ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด ร่างหนาแค่นหัวเราะเสียงทุ่มต่ำออกมาอย่างพอใจอีกครั้ง ยังคงหลับอยู่ หึ ..
ไม่ได้จะปฎิเสธิ ว่าทั่วทั้งตัวของอีซองยอลตั้งแต่เด็กยันโตนี้ มันช่างสวยงามจนอธิบายไม่ถูกสำหรับเขา ตอนแรกก็เกลียดอยากแกล้งตอนนี้เขาก็เกลียด ใช่เขาเกลียด เพราะอีซองยอล เขาถึงได้เป็นแบบนี้ ..
รอยซึมของเลือดที่ข้อมือของลีซองยอลจางลงไปแล้ว ถ้าทำได้ เขาก็ไม่ได้อยากจะทำให้ร่างกายนี้มีบาดแผล หากแต่เจ้าของร่างทำท่าเหมือนรังเกียจซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ถูกส่งตัวมาเจอก็พอชดเชยในสิ่งที่แม่ของอีซองยอลทำไว้กับเขาไม่ใช่เหรอ ถึงเข้าจะเข้าใจคนเดียวก็ตาม แต่อีซองยอลก็ไม่มีสิทธิมารังเกียจคิมมยองซู รังเกียจคนอย่างเขางั้นรึ หึ..
ยิ่งรังเกียจ คิมมยองซูก็ยิ่งอยากยัดเยียดความเป็นเจ้าของให้!
ร่างหนาเหยียดริมฝีปากก่อนก้มลง รุกไล้เล่นกับซอกคออีซองยอลอีกครั้ง นิ้วมือเรียวยาวไม่ได้อยู่เปล่า เลื่อนขึ้นมาลูบจับสะกิดเล่นกับยอดเป็นตัยชมพูรุกเร้ามากกว่าเดิม
“อา..อ่ะ ยะ อย่า ” ซองยอลเอื้อนเอ่ยพูดขึ้นมาทั้งที่ยังดวงตายังคงปิดสนิท
ร่างหนายกยิ้มมุมปาก เลื่อนนิ้วมือลงลูบหน้าท้องไล้ต้นขานวลเนียนลงไป เลื่อนริมฝีปากจากซอกคอไปประกบช่วงชิงปากอวบอูมในเงามืดสลัว อีซองยอลบิดร่างตัวเองเล็กน้อยในอ้อมกอด
“อึก ..อื้อ..อื้ม” เขาดุลดันลิ้นกับริมฝีปากปิดสอดแทรกเข้าไปตวัดกวาดรอบในโพรงปากหวานๆข้างใต้อย่างง่ายดาย ยิ่งเขากวาดต้อนหมุนเขาก็ยิ่งรับรสความหวานหอม ลีซองยอล ลิ้นของนายนี่มันอร่อยจริงๆ ไม่ต่างจากเมื่อก่อน ไม่ว่าฉันจะสัมผัสมันกี่ครั้งก็ตาม หึหึ..
คิมมยองซูสอดวงแขนรั้งตัวคนที่บิดเร้าใต้ร่างเข้ามาแนบชิดอก หากว่าตอนที่อีซองยอลยังไม่หลับ อีซองยอลเป็นเด็กดีแบบนี้ อีซองยอลก็คงไม่เจ็บตัวหรอก..หึ
“อ่า ..อ่ะ ..” เสียงครางเบาๆยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ เขาสัมผัสได้ถึงอาการเหนื่อยอ่อน ของร่างกายซองยอล อาจเพราะกอบโกยความหวานในโพรงปากนั้นมากเกินไป จนทำให้อากาศหายใจขาดหายไปก็เป็นได้
คิมมยองซูเลื่อนนิ้วมือวนเวียนลงต่ำ จับส่วนหวงเหนของอีซองยอลใต้หว่างขาเนียนนั้น ยิ่งสัมผัสร่างข้างใต้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเริ่มจะรู้สึกถึงความต้องการของตัวเองมากขึ้น เขายกสะโพกนุ่มนิ้มของซองยอลขึ้น สอดขาซองยอลเข้ากับเอวหนา ขยับเข้าใกล้ แนบชิด
“คะ คิมมยองซู ”
จู่ๆก็ได้ยินชื่อตัวเองจากเรียวปากอีกคนที่น่าจะไม่รับรู้ว่าร่างกายตัวเองกำลังถูกทำอะไร เขาชะงักงัน ผงกหัวขึ้น มองหน้าอีกคนในเงามืดสลัว ดวงตาใสที่เคยปิดตอนนี้เปิดมองคิมมยองซูหยาดเหยิ้ม ใบหน้าระเรื่อข้างแก้มสองข้าง นี่เขากำลังเมารึเปล่า ทำไมเขาถึงมองเห็นซองยอลเป็นแบบนั้น
“ นะ นาย เบาๆนะ ” ร่างหนาตะลึงค้างกับสิ่งที่ได้ยิน หมอนี่ไม่ได้หลับอยู่หรอกหรือ? หากแต่ยังไม่ทันได้ให้คำตอบกับตัวเองแน่ชัด เขาก็รู้สึกได้ถึงสองแขนที่โอบรอบคอ
“ตะ . ต่อสิ ” แววตาหวาบหวามสั่นในเงาสลัวยิ่งทำคิมมยองซูฉงน หัวใจร่างหนาเต้นตึกๆ ทำไมวันนี้ซองยอลไม่ขัดขืนเขา
“ มยองซู ” เสียงเรียกหวานข้างใต้ตัวคิมมยองซูดังขึ้นอีก หรือว่าหมอนี่ไม่ได้หลับมาตั้งแต่ต้น ??
“นายไม่ได้หลับ” คิมมยองซูพูดเสียงเย็นเรียบ
“ฉัน.. ” ร่างใต้ตัวคิมมยองซูพยักหน้าเบาๆ
หากแต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการรู้ คิมมยองซูจับแขนทั้งสองข้างของซอลยอลออกจากคอ กดลงกับพื้นเตียงจนจม
“อ่ะ จะ -- เจ็บ -- ” ร้ายนักนะลีซองยอล เห็นฉันเป็นตัวตลกรึไง !!
เขาจ้องมองหน้าบิดเบี้ยวที่เริ่มมีน้ำตาคลอที่ดวงตาขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาบีบข้อมือนั่นลงไปอีก อย่างใจเย็น
“มยองซูฉันเจ็บ ..ฮึก.” เริ่มมีเสียงสะอื้นออกมาให้ได้ยินชัดขึ้น
คิมมยองซูจ้องมองอยู่อย่างนั้น เสียงของความเจ็บปวด มันเป็นเสียงที่เสียดแทงในใจเขา หากแต่ว่าซองยอลสมควรได้รับ!
“หึ!!” คิมมยองซูผละจากร่างกายยั่วยวนนั้นอย่างหมดอารมณ์ แต่ทว่ามือสั่นๆเปียกชื้นกลับดึงรั้งเขาไว้ แรงดึงนั้นทำให้เขาหันกลับไปมองอย่างฉงน
“อย่าไปนะ มยองซู” คำพูดเบาเครือดังออกมาจากเรียวปากสวยให้กับเขา มันทำให้เขามองอย่างไม่เข้าใจ ..
“ทำไมจะไปไม่ได้ ” คิมมยองซูพูดเสียงเย็นเรียบ ไม่แสดงอาการใดๆ
“เพราะ.. เพราะ ฉะ .. ฉันต้องการนาย ..”
ร่างหนาถึงกับยืนนิ่งอย่างตกตะลึงเมื่อได้ฟังประโยคนั้น เขายอมรับว่าแววตาและน้ำเสียงของซองยอลในตอนนี้ช่างยั่วยวนและดึงดุดเขา แต่ ..
หึ . คงกำลังอยากจะเล่นเกมอะไรซักอย่างอยู่สินะ ใช่ไหม ก็ดี
คิมมยองซูหันไปจ้องมองซองยอลด้วยสายตาราบเรียบไร้ความรู้สึก แววตาของเขาคงทำให้อีกคนรู้สึกถึงอารมณ์ที่ร่างหนาเป็นอยู่ อีซองยอลจึงต้องปล่อยมือจากคิมยองซูไปในวินาทีนั้น
“ต้องการงั้นเหรอ แค่ไหนล่ะ”
คิมมยองซูเหยียดยิ้มมุมปาก ลีซองยอลไม่พูดอะไรใดๆออกจากปาก กลับขยับเข้ามาหาร่างหนา ยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอ เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ยกริมฝีปากเข้ามาแตะกับปากคิมมยองซู แล้วแช่อยู่อย่างนั้น การกระทำแบบนั้นทำให้คิมมยองซูหัวเราะในลำคอออกมา อย่างสะใจ
นี่หรือการยั่วยวน นายนอนนิ่งๆยังน่ากินซะกว่าอีกซองยอล
“ฉันต้องการนาย คิมมยองซู”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น